เรตินอล เรตินัล เรตินอยด์ ต่างกันอย่างไร?

Last updated: 22 ธ.ค. 2567  |  148 จำนวนผู้เข้าชม  | 

เอจล็อค ทรู เฟซ เปปไทด์ เรตินอล ageloc tru face peptide retinol complex 39

เรตินอล (Retinol) คือ อนุพันธ์ของวิตามินเอ (Vitamin A) รูปแบบหนึ่งที่อยู่ในกลุ่มเรตินอยด์ (Retinoid) มักนำมาใช้เป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวกลุ่ม Anti-aging มีประสิทธิภาพสูงในการฟื้นฟูผิว ช่วยลดเลือนริ้วรอย จุดด่างดำ รอยสิว และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ช่วยให้ผิวกระชับ แลดูอ่อนเยาว์ เรียกได้ว่าเป็นสุดยอดสารกู้ผิวหน้าเลยก็ว่าได้

กลุ่มอนุพันธ์วิตามินเอที่มักใส่ในสกินแคร์มีความเข้มข้นตามลำดับการออกฤทธิ์ดังนี้ Retinyl Ester → Retinol → Retinaldehyde (Retinal) → Retinoic Acid

แล้วเจ้า เรตินอล เรตินัล เรตินอยด์ มีความแตกางกันอย่างไรล่ะ?

เป็นคำถามที่หลายคนสงสัยและทำให้ไม่มั่นใจว่าจะเลือกใช้สกินแคร์แบบไหนดีที่เหมาะกับผิว หากจะอธิบายให้เข้าใจง่าย เรตินอยด์ (Retinoid) คือชื่อกลุ่มของสารวิตามินเอและอนุพันธ์ของวิตามินเอ ซึ่งจะแบ่งออกเป็นหลายประเภทตามโครงสร้างทางเคมี และความเข้มข้นของเรตินอยด์แต่ละประเภทก็มีความแตกต่างกัน ดังนี้

  • Retinyl Esters (เรตินิล เอสเทอร์)
    จัดอยู่ในอนุพันธ์วิตามินเอที่อยู่ในกลุ่มเครื่องสำอาง ไม่สามารถออกฤทธิ์ได้ด้วยตัวเอง ต้องอาศัยเอนไซม์ที่ผิวในการทำปฏิกิริยาถึง 3 ครั้งจึงจะออกฤทธิ์ได้ จึงทำให้เห็นผลช้า แต่เป็นสารที่เข้มข้นน้อยที่สุด อ่อนโยนมากที่สุด เหมาะกับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย
  • Retinol (เรตินอล)
    จัดอยู่ในอนุพันธ์วิตามินเอที่อยู่ในกลุ่มเครื่องสำอางเช่นเดียวกับ Retinyl esters ต้องอาศัยเอนไซม์ที่ผิวในการทำปฏิกิริยาถึง 2 ครั้งก่อนจะเปลี่ยนเป็น Retinoic Acid ที่สามารถออกฤทธิ์ได้ ความเข้มข้นระดับปานกลาง นิยมใช้บำรุงผิวยกกระชับ ลดเลือนริ้วรอย ได้ผลดีหากใช้ต่อเนื่อง 3-6 เดือน แต่อาจทำให้เกิดการระคายเคืองได้ง่าย ต้องใช้อย่างระมัดระวัง
  • Retinaldehyde (เรตินัล)
    Retinaldehyde หรือนิยมเรียกสั้น ๆ ว่า เรตินัล (Retinal) เป็นอนุพันธ์วิตามินเอที่อยู่ในกลุ่มเครื่องสำอาง ก่อนจะเปลี่ยนเป็น Retinoic Acid ความเข้มข้นระดับปานกลาง-มาก มีฤทธิ์แรงกว่าเรตินอล เห็นผลเร็วกว่า หากใช้อย่างต่อเนื่องจะช่วยเรื่องลดริ้วรอยร่องลึกและช่วยให้ผิวเรียบเนียนได้
  • Retinoic Acid หรือ Tretinoin (กรดเรติโนอิก)
    จัดอยู่ในอนุพันธ์วิตามินเอที่อยู่ในกลุ่มยา โดย Retnoic acid จะอยู่ในรูป Active form สามารถออกฤทธิ์ได้ทันที รู้จักกันในชื่อ Retin-A นิยมใช้ในการรักษาสิว ยับยั้งกระบวนการที่ทำให้เกิดสิว ทั้งสิวอุดตันและสิวอักเสบ และยังช่วยให้การรักษาหลุมสิว ทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้นได้ Retinoic acid เป็นสารที่มีความเข้มข้นสูง มีโอกาสเกิดการระคายเคืองได้มาก จะต้องสั่งจ่ายโดยแพทย์หรือเภสัชกรเท่านั้น

เรตินอล ทำงานอย่างไร?
กระบวนการทำงานของเรตินอลหรือสารกลุ่มเรตินอยด์ในการบำรุงผิว คือ เรตินอยด์จะเข้าไปจับกับตัวรับเรตินอยด์ที่มีมากบริเวณหนังกำพร้า จากนั้นจะกระตุ้นให้เกิดการแสดงออกของยีนที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการต่าง ๆ ของผิว เช่น กระตุ้นการแบ่งตัวของเซลล์ผิวทำให้ผิวหนาตัวขึ้น กระตุ้นให้เกิดการสังเคราะห์คอลลาเจนมากขึ้น โดยเฉพาะคอลลาเจนชนิดที่ 1, 3 และ 7 ยับยั้งเอนไซม์ที่ทำให้คอลลาเจนสลาย และยังช่วยกระตุ้นการสังเคราะห์ Glycoaminoglycan ส่งผลให้ผิวมีความชุ่มชื้นขึ้นได้อีกด้วย นอกจากนี้เรตินอยด์ยังมีคุณสมบัติไปจับกับเซลล์ที่ผิดปกติหรือกำลังอักเสบได้เป็นอย่างดี เช่น บริเวณที่มีสิวอักเสบ ทำให้การอักเสบลดลงได้

การใช้เรตินอลช่วยอะไรได้บ้าง?

  • ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้ผิว ให้ผิวดูแน่นกระชับขึ้น
  • ช่วยลดริ้วรอยเล็ก ๆ ริ้วรอยจากการแสดงสีหน้า ริ้วรอยหน้าผาก ขมวดคิ้ว รอยตีนกา จนถึงให้ริ้วรอยร่องลึกดูตื้นขึ้น
  • ช่วยลดจุดด่างดำ รอยดำจากสิว เพิ่มความกระจ่างใส
  • ช่วยลดการอักเสบของสิว ลดสิวอุดตัน สิวหัวดำ ทั้งบริเวณใบหน้าและลำตัว สิวที่อก สิวที่หลัง
  • ช่วยควบคุมความมันบนผิว ลดรูขุมขนกว้าง
  • ช่วยลดหลุมสิว ช่วยให้หลุมสิวตื้นขึ้น

ข้อควรระวังในการใช้เรตินอล
เรตินอลเป็นสารที่ไม่อันตราย (หากใช้อย่างถูกวิธี) เพราะอาจทำให้เกิดการระคายเคืองได้ ข้อควรระวังในการใช้เรตินอล มีดังนี้
  • ห้ามใช้ในผู้ที่กำลังตั้งครรภ์, วางแผนตั้งครรภ์ หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร เพราะสารกลุ่มวิตามินเอ จะส่งผลให้เกิดความผิดปกติในทารกได้
  • เรตินอลจะทำให้ผิวมีความไวต่อแดดมากขึ้น ควรหลีกเลี่ยงการตากแดดจัดและควรทาครีมกันแดดเป็นประจำ
  • ในการเริ่มใช้เรตินอล ควรเริ่มใช้เรตินอลที่ความเข้มข้นต่ำ และใช้เฉพาะช่วงเวลากลางคืนก่อนนอน 2 ครั้งต่อสัปดาห์หรือวันเว้นวันในช่วงแรก เพื่อให้ผิวได้มีการปรับตัว ลดการเกิดอาการแพ้ ระคายเคือง
  • ไม่ควรใช้เรตินอลร่วมกับสารเรตินอยด์ตัวอื่นๆ, ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรดวิตามินซี, AHA หรือ BHA (Beta Hydroxy Acid) เพราะจะทำให้ผิวแห้งและเกิดการระคายเคืองที่รุนแรงขึ้นได้

ขอบคุณที่มา: vsquareclinic

นู สกิน (Nu Skin) เชี่ยวชาญข้อมูลการวิจัยทางวิทยาศาสตร์จำนวนมหาศาล และดำเนินการวิจัยเชิงลึกเกี่ยวกับสาเหตุที่แท้จริงของการแก่ชราของผิว และได้เปิดตัว เอจล็อค ทรูเฟซ เปปไทด์ เรตินอล คอมเพล็กซ์ (ageLOC Tru Face Peptide Retinol Complex) ด้วยนวัตกรรมที่ล้ำสมัย เปปไทด์ เรตินอล คอมเพล็กซ์ ผสานเทคโนโลยีขั้นสูง ประสิทธิภาพทางคลินิก และสูตรที่อ่อนโยน เพื่อมอบผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัดเจน ให้ประสิทธิภาพครบถ้วนทั้งด้านลดริ้วรอย จุดด่างดำแลดูจางลง ผิวสว่างกระจ่างใสขึ้น กระตุ้นกระบวนผลัดเซลล์ผิวตามธรรมชาติ ตอบโจทย์ทุกปัญหาผิว เนื้อสัมผัสก็ซึมซับได้ง่ายและไม่เหนียวเหนอะหนะ ใช้ในขั้นตอนเซรั่มเวลากลางคืน และสามารถใช้ได้ทุกวัย

ageLOC Tru Face Peptide Retinol Complex
ทรงพลังต้านริ้วรอย แต่อ่อนโยนต่อผิว ด้วยสูตรน้องใหม่ Retinoic Acid Esters ซึ่งเป็นที่สุดของการผสาน "เรตินอล" และ "เปปไทด์" ไว้ในขวดเดียว รูปแบบ "แอดวานซ์ เปปไทด์" ที่คิดค้นโดย AI และ "เรตินอล คอมเพล็กซ์" ที่อ่อนโยนกว่าแต่ให้ประสิทธิภาพมากกว่า แต่อ่อนโยนกว่า

ageLOC Tru Face Peptide Retinol Complex
อีกระดับของผลิตภัณฑ์ "เรตินอล (Retinol)" ที่ขึ้นชื่อในด้านต่อต้านริ้วรอย ทรงพลังด้วยสูตรเทคโนโลยีปปไทด์ที่เสริมประสิทธิภาพด้วย AI ในสูตรที่ 'อ่อนโยนมาก' ให้ผลลัพธ์ที่รวดเร็วและได้รับการพิสูจน์ทางคลินิกแล้วว่า ​ฟื้นฟูผิวจากความหมองคล้ำ เผยผิวเรียบเนียน กระชับ สีผิวสม่ำเสมอ กระจ่างใส และแลดูอ่อนเยาว์ โดยไม่ทำให้ผิวเกิดการระคายเคือง เป็นผื่นแดง แห้งกร้าน หรือลอกเป็นขุย ใช้ได้กับทุกสภาพผิว

ageLOC Tru Face Peptide Retinol Complex
เอจล็อค ทรูเฟซ เปปไทด์ เรตินอล คอมเพล็กซ์

สินค้าจำหน่ายรอบพิเศษ 24 ธค. 67 วันเดียวเท่านั้น
เซ็ต 3 หลอด 7,260.- (ปกติ 10,400.-) จำนวนจำกัด!
แบ่งหาร ทดลองใช้ 2500.-/หลอด ส่งฟรีทั่วไทยคะ!

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้