Last updated: 1 ธ.ค. 2567 | 203 จำนวนผู้เข้าชม |
ค้นพบสิ่งที่ดีที่สุดของคุณ ทั้งภายในและภายนอก
ด้วยผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงามแบบครบวงจรของเรา
จากจุดเริ่มต้นเล็กๆ โดย 3 ผู้ก่อตั้ง
ด้วยเงินลงทุนเพียง 5,000 เหรียญสหรัฐฯ เพื่อจำหน่ายครีมบำรุงผิวที่ให้ลูกค้านำกระปุกมาแบ่งใส่เองผ่าน "ช้อนเล็ก เพียงหนึ่งคัน" สู่ผู้นำการต่อต้านความเสื่อมชราระดับโลก ด้วยการทุ่มเงินลงทุนในการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่องไม่หยุดยั้ง ก้าวเป็นธุรกิจระดับโลกขยายไปใน 55 ตลาดทั่วโลก พร้อมสินค้านวัตกรรม ติดเทรนด์โลก ออกใหม่ทุกปี! และแผนการตลาดที่ผู้คนสามารถสร้างรายได้จากทั่วโลก
รวมแต่สิ่งที่ดี ปราศจากสิ่งที่เป็นโทษ (ALL OF THE GOOD, NONE OF THE BAD)
นู สกิน ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2527 ด้วยความมุ่งมั่น ในการมอบผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีคุณภาพซึ่งใช้ส่วนผสม ที่มีประโยชน์และมีคุณภาพระดับพรีเมี่ยมเท่านั้น นู สกิน ยังคงยึดมั่นในพันธะสัญญา “รวมแต่สิ่งที่ดี ไม่มีโทษ” ซึ่งสืบทอดกันมาอย่างยาวนานจนถึงวันนี้ โดยมุ่งมั่นที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์นวัตกรรมด้านความงามและสุขภาพที่เรียบง่ายและด้วยส่วนผสมที่มีประสิทธิภาพ
วันนี้ เราไม่เพียงผสมผสานความเชี่ยวชาญทางด้านการดูแลผิวพรรณและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเท่านั้น เรายังมอบประสบการณ์ด้านสุขภาพและความงามแบบองค์รวมที่ปรับแต่งได้ให้กับคุณอีกด้วย เรากำลังจินตนาการถึงอนาคตที่ยิ่งใหญ่ขึ้น สดใสขึ้นและสามารถเชื่อมต่อได้มากกว่าที่เคย
จากวิสัยทัศน์ที่แน่วแน่ สู่การเป็นบริษัทชั้นนำของโลก
ด้านนวัตกรรมความงามและสุขภาพที่ครบวงจร
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย
ที่ นู สกิน เรามุ่งมั่นที่จะก้าวข้ามขีดจำกัดเพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรม และนำเสนอผลิตภัณฑ์ระดับโลกที่มอบคุณประโยชน์ที่แท้จริงให้กับคุณ
นวัตกรรมใหม่ของ นู สกิน
เวชศาสตร์ชะลอวัยที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของของ นู สกิน ที่พบในอุปกรณ์และผลิตภัณฑ์ดูแลผิวของเราได้รับการพัฒนาโดย นู สกิน ด้วยความร่วมมือกับนักวิทยาศาสตร์ชั้นนำอันเป็นแนวทางในการปฏิวัติสิ่งที่มีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงตามวัย นู สกิน ลงทุนกว่า 200 ล้านเหรียญสหรัฐในการวิจัยและพัฒนาเพื่อทำความเข้าใจว่าการแสดงออกของยีนเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรตามอายุ และจะมี อิทธิพลต่อภายนอกอย่างไร ทำให้เราเป็นหนึ่งในผู้นำที่ชัดเจนในอุตสาหกรรม
นู สกิน มีความเชี่ยวชาญมานานกว่า 40 ปี
ในด้านการต่อต้านความชรา มีห้องปฏิบัติการอันทันสมัยสำหรับการวิจัยและประเมินคุณภาพผลิตภัณฑ์ ผลลัพธ์คือเทคโนโลยีที่พัฒนามาจากงานวิจัยด้านการแสดงออกของยีน เพื่อพัฒนาเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อคืนความอ่อนเยาว์ในแบบที่คุณเป็นให้กับคุณอีกครั้ง หรือเรียกสั้นๆ ว่า “เอจล็อค”
เทคโนโลยีเอจล็อค (ageLOC Technology)
เป็นความก้าวหน้าทางการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ NU SKIN ร่วมมือกับนักวิทยาศาสตร์ที่โดดเด่นจากทั่วโลกและลงทุนหลายล้านดอลลาร์ในการวิจัยด้านการต่อต้านวัยและพันธุกรรมเป็นเวลาหลายปี เพื่อให้ตลาดมีสูตรการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่มองไปข้างหน้า และผลิตภัณฑ์ต่อต้านวัยที่ดีเยี่ยม ด้วยการวิจัยในระดับการแสดงออกของยีน เราสามารถเข้าใจกระบวนการชราได้ดีขึ้น และค้นหาวิธีแก้ปัญหาเพื่อชะลอการแก่จากระดับการแสดงออกของยีน
ageLOC Technology คืออะไร?
"เทคโนโลยีเอจล็อค จะช่วยปรับกระบวนการทำงานของกลุ่มยีนแห่งความอ่อนเยาว์ให้คืนประสิทธิภาพเหมือนในวัยหนุ่มสาวได้"
ดร. โจ แชง หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ นู สกิน เอ็นเตอร์ไพร์ส และผู้เขียนหนังสือ “THE AGING MYTH” ที่โด่งดังขึ้นแท่น “NEWYORK TIMES BEST SELLER”
เป้าหมายคือการชะลอความเสื่อมชรา
นู สกิน เข้าใจความกังวลของผู้คนเรื่องความเสื่อมชรา จึงทุ่มเทการวิจัยมุ่งเป้าไปที่ต้นกำเนิดของความเสื่อมชรา จนค้นพบว่าการแสดงออกของยีนบางกลุ่มที่เป็นต้นเหตุของความเสื่อมชรา จึงพัฒนาจนเกิดเป็น เทคโนโลยีเอจล็อค (ageLOC) และต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์นวัตกรรมหลากหลาย ที่เน้นเรื่องความเยาว์วัยและชะลอความเสื่อมชราของร่างกาย
"เอจล็อค เทคโนโลยีสิทธิบัตร เพื่อคงความอ่อนเยาว์ในแบบที่เป็นคุณ"
การลงทุนด้านนวัตกรรม
นู สกิน ประสบความสำเร็จในการก้าวสู่อนาคตด้วยวิทยาศาสตร์ที่ล้ำสมัย การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่ก้าวล้ำ และความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ที่ก้าวหน้า เรามุ่งมั่นที่จะเติบโตและสร้างสรรค์นวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์ในทุก ๆ ด้าน เพื่อการลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่ออนาคตของคุณ
การซื้อกิจการ LifeGen Technologies ครั้งล่าสุดของเราจะเปิดโอกาสใหม่ๆ ทุกวัน LifeGen เคยเป็นพันธมิตรด้านนวัตกรรม แต่ตอนนี้กลายเป็นสมาชิกใหม่ล่าสุดของครอบครัว Nu Skin เราร่วมกันทำสิ่งที่น่าทึ่งมากมาย...และตอนนี้ความสำเร็จของเรากำลังจะเติบโตอย่างก้าวกระโดด
การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ถือเป็นเครื่องมือแห่งความสำเร็จที่ทรงพลังที่สุดของเรา และถือเป็นการผสมผสานที่ทำให้เกิดนวัตกรรมที่รวดเร็วยิ่งขึ้น ผลิตภัณฑ์ที่ปฏิวัติวงการ และความเป็นไปได้ที่ไร้ขีดจำกัด
ฐานข้อมูลพันธุกรรมต่อต้านวัยของ LifeGen Technologies
หัวใจสำคัญของทั้งหมดนี้ก็คือฐานข้อมูลต่อต้านวัย LifeGen ซึ่งเป็นชุดข้อมูลการแสดงออกของยีนต่อต้านวัยที่ใหญ่ที่สุดในประเภทเดียวกัน และตอนนี้ฐานข้อมูลดังกล่าวเป็นของ Nu Skin เท่านั้น ซึ่งหมายถึงเป็นของคุณเท่านั้น ฐานข้อมูลนี้ช่วยให้คุณเข้าถึงโซลูชันต่อต้านวัยที่ล้ำสมัยที่สุดได้เป็นการส่วนตัว
ด้วยความเชี่ยวชาญด้านพันธุศาสตร์ต่อต้านวัยมากกว่า 30 ปี การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ทำให้เราสามารถค้นหาฐานข้อมูลยีนที่เกี่ยวข้องกับวัยที่สำคัญได้ ซึ่งหมายความว่ามีการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลทางพันธุกรรมมากกว่า 500 ล้านจุด และยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น
เกี่ยวกับยีน
วงการวิทยาศาสตร์ได้เข้าถึงจีโนมมนุษย์ (Human Genome) ชุดของข้อมูลทางพันธุกรรมของมนุษย์ แต่ด้วยวิทยาการล่าสุดของนู สกิน วิทยาการเอจล็อค ทำให้เราสามารถทำความเข้าใจการต่อต้านความชราได้มากขึ้น ด้วยการทำวิจัยพันธุกรรมอย่างไม่หยุดยั้งกว่า 30 ปี นู สกินได้ก้าวขึ้นไปสู่แถวหน้าของวงการวิทยาศาสตร์และเป็นผู้นำของอุตสาหกรรม
หนทางสู่การค้นพบวิทยาการ เอจล็อค ของนู สกิน นั้นค่อนข้างน่าสนใจ ตั้งแต่เจมส์ วัตสัน, ฟรานซิส เคิร์ก และ โรซาไลนด์ แฟรงคลิ้น ได้ค้นพบโครงสร้างของ ดีเอ็นเอ (DNA) ในปี 1953 หลังจากนั้นสาขาพันธุกรรมก็ได้ขยายวงกว้างขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์ ในปี 2003 นักวิทยาศาสตร์สามารถถอดรหัสจีโนมมมนุษย์ได้เป็นผลสำเร็จ และด้วยความก้าวหน้านั้น ทำให้เรารู้ว่ามนุษย์เรามียีนกว่า 20,000 – 30,000 ตัว และหนึ่งในสิบของยีนเหล่านั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับการแสดงออกของยีนทั้งหมด และการแสดงออกของยีนนั้นเปลี่ยนแปลงไปตามอายุที่เพิ่มขึ้นของเรา
ยีนที่แสดงออกน้อยเมื่อเรายังเด็ก อาจจะแสดงออกมากขึ้นเมื่อเรามีอายุมากขึ้น ในขณะที่ยีนตัวอื่นๆ อาจจะแสดงออกน้อยลง
ดังนั้น ด้วยความเข้าใจในการแสดงออกของยีนควรเปลี่ยนแปลงในขณะที่เราอายุเพิ่มขึ้น และปัจจัยภายนอกที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง นู สกิน ได้มอบวิสัยทัศน์ใหม่ของมุมมองต่อความชรา
ต้นกำเนิดของกระบวนการชรา
นู สกิน ได้นำวิทยาศาสตร์การต่อต้านความชราไปสู่อีกขั้นที่เหนือชั้นกว่าใคร ด้วยการศึกษายีนที่เป็นต้นตอของกระบวนการชราด้วยคำถามที่ว่า เราแก่ชราอย่างไร์ และทำไมเราถึงแก่ชรา? ด้วยการพัฒนาของ นู สกิน ร่วมกับนักวิทยาศาสตร์ชั้นนำ วิทยาการเอจล็อค มีพื้นฐานมาจากการค้นพบต้นตอของความชราภายในซึ่งก่อให้เกิดกระบวนการชราภายนอก หรือที่ นู สกิน เรียกว่า Age-Related Super Markers หรือ arSuperMarkers วิทยาการเอจล็อคสุดพิเศษของ นู สกิน ได้ชี้เฉพาะตัว arSuperMarkers เหล่านี้ คือ ต้นตอของกระบวนการชราที่เป็นตัวกำหนดกระบวนการชราของเรา
จากการค้นพบนี้ นู สกิน สามารถที่จะระบุ arSuperMarkers ตัวสำคัญที่เรียกว่า กลุ่มยีนแห่งความอ่อนเยาว์ (Youth Gene Clusters-YGCs) ซึ่งเป็นกลุ่มยีนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับรูปลักษณ์ของเราเมื่อเรามีอายุมากขึ้น มีแค่วิทยาการเอจล็อคเท่านั้นที่สามารถเข้าใจวิธีการรีเซ็ตกลุ่มยีนนี้ให้กลับไปแสดงออกในรูปแบบอ่อนเยาว์ การค้นพบปฏิวัติวงการนี้เกิดจากความร่วมมือของนู สกินกับนักวิทยาศาสตร์ชั้นนำรอบโลก เงินลงทุนกว่าหลายล้านเหรียญ และเวลาอีกหลายปีแห่งการวิจัยทางพันธุกรรม
การระบุแหล่งที่มา
ชุมชนวิทยาศาสตร์สามารถเข้าถึงจีโนมของมนุษย์ได้ แต่เทคโนโลยี ageLOC ของนู สกินทำให้เราสามารถตีความข้อมูลดังกล่าวได้อย่างมีความหมาย ในการค้นพบทางวิทยาศาสตร์ล่าสุด นู สกิน ร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญด้านการต่อต้านวัยและพันธุกรรม เพื่อระบุกลุ่มยีนหลักหรือกลุ่มยีนที่มีหน้าที่ในการทำหน้าที่ต่างๆ ที่ช่วยส่งผลต่อการแก่ชราของเรา นู สกิน เชื่อว่าการค้นพบและระบุกลุ่มยีนที่มีหน้าที่ในการทำหน้าที่ต่างๆ เหล่านี้ คือกุญแจสำคัญในการแก้ไขปัญหาการแก่ชราที่ต้นเหตุ
ผลการศึกษาทางคลินิก การวิเคราะห์จีโนม และการวิจัยที่ได้รับการยืนยันจากวิทยาศาสตร์ ageLOC ทำให้เหล่านักวิทยาศาสตร์ของ Nu Skin สามารถระบุกลุ่มยีนแห่งความอ่อนเยาว์ YGCs ที่มีหน้าที่เฉพาะที่รับผิดชอบต่อคุณลักษณะของผิวที่ดูอ่อนเยาว์ การแสดงออกของยีนเหล่านี้รับผิดชอบต่อสัญญาณของความชราบนผิวของเรา ด้วยวิทยาศาสตร์ ageLOC นู สกิน จึงสามารถรีเซ็ตยีนเหล่านี้เพื่อให้ดูอ่อนเยาว์มากขึ้น ช่วยฟื้นฟูความสมดุลของผิวให้ดูอ่อนเยาว์ยิ่งขึ้น
การรีเซ็ตสมดุล
เมื่อเราระบุกลุ่มยีนแห่งความอ่อนเยาว์ YGCs ได้แล้ว สิ่งสำคัญคือต้องรีเซ็ตกลุ่มยีนเหล่านี้เพื่อให้ผิวดูอ่อนเยาว์ขึ้น การรีเซ็ตกลุ่มยีนของความเยาว์วัยเป็นกระบวนการปรับสมดุลที่ละเอียดอ่อน ไม่ใช่แค่เพียงการเปิดและปิดเท่านั้น ยีนบางส่วนในกลุ่มยีนอาจต้องถูกเร่งขึ้น ในขณะที่ยีนบางส่วนอาจต้องถูกลดระดับลง วิทยาศาสตร์ ageLOC ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ Nu Skin ช่วยรีเซ็ตกลุ่มยีนของความเยาว์วัยเพื่อสร้างสมดุลของความเยาว์วัยภายในกลุ่มยีนแต่ละกลุ่ม ทำให้ยีนเหล่านี้กลับคืนสู่รูปแบบกิจกรรมของความเยาว์วัย
การปรับการแสดงออกของยีน
การปรับการแสดงออกของยีน หมายถึง การรีเซ็ตการแสดงออกของยีนให้ออกมาในรูปแบบอ่อนเยาว์ ถ้าหากยีนนั้นแสดงออกมากขึ้นขณะที่เราแก่ตัวลง เราจะปรับยีนโดยใช้วิทยาการ เอจล็อค ทำให้การแสดงออกของยีนนั้นน้อยลง เพื่อแสดงออกอย่างอ่อนเยาว์
Youth Gene Clusters (YGCs) กลุ่มยีนแห่งความอ่อนเยาว์
คือความลับของความเยาว์วัย เนื่องจากมุ่งเป้าไปที่แหล่งที่มาของความชราขั้นสูงสุดซึ่งก็คือยีนของเรา ด้วยการรีเซ็ตกลุ่มยีนแห่งความอ่อนเยาว์ (YGCs)
Aging Response Modulators
การปรับการการแสดงออกของยีนแบบอ่อนเยาว์นั้น สามารถทำได้ด้วยผลิตภัณฑ์ต่อต้านความชราระดับใหม่ ในชื่อ ARMs – Aging Response Modulators ชี้เฉพาะการทำงานของกลุ่มยีนแห่งความอ่อนเยาว์ (Youth Gene Clusters - YGCs) เพื่อเป็นตัวกระตุ้นกระบวนการชรา และรีเซ็ตกลุ่มยีนนี้ให้ทำงานในรูปแบบอ่อนเยาว์
เทคโนโลยี "เอจล็อค" เอกสิทธิ์หนึ่งเดียวของ นู สกิน ที่เข้าจัดการต้นกำเนิดของความเสื่อมชรา YGCs ใน ปี ค.ศ. 2008 ด้วยการใช้เทคโนโลยี
GENE CHIP เพื่อการจัยและพัฒนาผลิตภัณภัณฑ์ "ยีนชิW" คืออุปกรณ์ ทางวิทยาศาสตร์ขนาดเล็กที่สามารถบันทึก ข้อมูลการแสดงออกของยีน
ของมนุษย์ที่มีกว่า 20,000 ยีน
ทีมวิจัยทางวิทยาศาสตร์ของ NU SKIN ใช้วิธีการที่ทันสมัยในด้านเทคโนโลยีสิ่งมีชีวิต เช่น ยีนชิป และเทคโนโลยี PCR
ด้วยเทคโนโลยี ageLOC นู สกิน ได้ค้นพบรูปแบบการแสดงออกของยีนที่เกี่ยวข้องกับผิวหนัง ร่างกาย และพลังงาน พร้อมทั้งคัดกรองและพัฒนาสูตร ageLOC ที่ได้รับการขัดเกลาและผลิตภัณฑ์ ageLOC ที่ผ่านการทดสอบตามเวลา โดยฉีดพลังงานใหม่เข้าสู่ตัวเราอย่างต่อเนื่องจากภายในสู่ภายนอก และฟื้นฟูความอ่อนเยาว์ของเรา ความลับ พบกับตัวตนที่สวยงามยิ่งขึ้น
เพื่อค้นหาคำตอบ นู สกิน กำลังยกระดับวิทยาศาสตร์ด้านการต่อต้านวัยขึ้นไปอีกระดับด้วยการศึกษาโปรไฟล์การแสดงออกของยีนของมนุษย์
นักวิทยาศาสตร์ของ Nu Skin ร่วมมือกับนักวิจัยด้านการต่อต้านวัยชั้นนำของโลกเพื่อระบุกลุ่มยีนบางกลุ่มที่รับผิดชอบต่อสัญญาณที่มองเห็นได้ของวัยที่เพิ่มขึ้น ซึ่งได้แก่ ซุปเปอร์มาร์กเกอร์ที่เกี่ยวข้องกับวัย (หรือที่เราเรียกกันว่า arSuperMarkers) วิทยาศาสตร์ ageLOC พิเศษเฉพาะของเรามุ่งเป้าไปที่แหล่งของวัยที่เพิ่มขึ้นเหล่านี้เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ช่วยให้คุณดูและรู้สึกอ่อนเยาว์ลง
วิทยาศาสตร์ทำงานอย่างไร?
แนวทางเฉพาะและเป็นกรรมสิทธิ์เฉพาะด้านวิทยาศาสตร์ด้านการแก่ชรานี้ มีพื้นฐานอยู่บนการค้นพบสารบ่งชี้ความชราที่สำคัญ หรือที่ นู สกิน เรียกว่า “arSuperMarkers”
การระบุยีนเหล่านี้เป็นเพียงขั้นตอนแรกเท่านั้น สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจว่ากิจกรรมของยีนส่งผลต่อโปรไฟล์การแสดงออกของยีนอย่างไร และส่งผลให้ผิวดูอ่อนเยาว์ลงได้อย่างไร การปรับสมดุลโปรไฟล์นี้เป็นกระบวนการที่ละเอียดอ่อน ไม่ใช่แค่เพียงการเปิดหรือปิดเท่านั้น แต่เป็นเพียงการลดตัวบ่งชี้บางตัวลงและเพิ่มตัวบ่งชี้ตัวอื่นๆ วิทยาศาสตร์ ageLOC ของ Nu Skin พยายามสร้างสมดุลนี้ให้ถูกต้อง ซึ่งสร้างโอกาสใหม่ๆ ในการรักษาผิวให้ดูอ่อนเยาว์ขึ้น
ความแตกต่างของ ageLOC
วิทยาศาสตร์ ageLOC ที่พบในอุปกรณ์ความงามและผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางของเรา ได้รับการพัฒนาโดย Nu Skin ร่วมกับนักวิทยาศาสตร์ชั้นนำ โดยเป็นแนวทางปฏิวัติวงการที่ส่งผลต่อรูปลักษณ์ของเราเมื่อมีอายุมากขึ้น
ผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายของเรา
ค้นพบผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายของเราซึ่งเราผสมผสานสิ่งที่ดีที่สุดจากธรรมชาติเข้ากับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีล้ำสมัยอย่างเชี่ยวชาญเพื่อสร้างผลลัพธ์
ผลิตภัณฑ์นวัตกรรมจากเทคโนโลยีเอจล็อก ได้รับการต่อยอดมาเป็นผลิตภัณฑ์ เพอร์ซันแนล แคร์ (Personal Care) ที่ช่วยดูแลผิวให้ได้รับการฟื้นฟูกลับสู่ความอ่อนเยาว์อีกครั้ง และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร (Dietary Supplement) ที่ใช้หลักการสำคัญของเทคโนโลยีเอจล็อคในการกระตุ้นการทำงานของยีนให้กลับมาทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพด้วยสารอาหารจากธรรมชาติที่ถูกต้องทั้งชนิด และปริมาณในการบริโภค เป็นการกระตุ้นกลไกการทำงานของยืนอย่างถูกต้อง เรียกได้ว่าเป็นการประสานการทำงานทั้งจากภายนอกและภายใน (INSIDE-OUT และ OUTSIDE-IN)
ชะลอความเสื่อมชรา…ภายนอกและภายใน
นู สกิน ให้ความสำคัญด้านการวิจัยเพื่อต่อต้านความเสื่อมชรา ด้วยงานวิจัยด้านการแสดงออกของยีน ทำให้ได้มาซึ่งเทคโนโลยี เอจล็อค ที่สามารถคืนความอ่อนเยาว์ ได้ทั้งจากภายนอกและภายใน ต่อยอดเป็นหลากหลายผลิตภัณฑ์ ที่เน้นเรื่องล็อคความเยาว์วัยและชะลอความเสื่อมชราของร่างกาย
อุปกรณ์ความงามสุดพิเศษ
พัฒนาโดย นู สกิน ร่วมกับนักวิทยาศาสตร์ชั้นนำ ยังได้รับการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมอีกด้วย
แบรนด์อันดับ 1 ของโลก บิวตี้แกดเจ็ตเพื่อการดูแลผิวที่บ้าน จาก นู สกิน มอบประสบการณ์ความงามที่สมบูรณ์แบบให้ทุกคนได้เพลิดเพลิน ด้วยรางวัลที่ได้รับการจัดอันดับให้ นู สกินเป็นบิวตี้แกดเจ็ตเพื่อการดูแลผิวที่บ้านอันดับ 1 ของโลกในปี 2017-2022*
*ที่มา: Euromonitor International Limited; มูลค่าเป็นราคาจำหน่ายปลีกผ่านทุกช่องทางการขายในระหว่างปี 2560 ถึงปี 2565 โดยบิวตี้แกดเจ็ตข้างต้นหมายถึงอุปกรณ์ดูแลผิวที่ใช้ได้ที่บ้านซึ่งต้องใช้หรือแนะนำให้ใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์แบรนด์เดียวกันที่ออกแบบมาให้ใช้คู่กับตัวเครื่อง ข้อความกล่าวอ้างนี้อยู่บนพื้นฐานของการวิจัยและวิธีวิทยาของ Euromonitor ในช่วงเดือนเมษายน - มิถุนายน 2566 ยอดขายของอุปกรณ์ดูแลผิวที่ใช้ได้ที่บ้านยังรวมถึงยอดขายของอุปกรณ์ไฟฟ้าสำหรับทำความสะอาดใบหน้าซึ่งเป็นฐานข้อมูลของ Passport แต่ไม่รวมอุปกรณ์ดูแลเส้นผม/กำจัดขน เครื่องโกนขนตามร่างกาย และอุปกรณ์สำหรับการดูแลช่องปาก
นวัตกรรม 6 ขั้นตอน สู่ความงามและสุขภาพ
สิ่งที่ทำให้ นู สกิน โดดเด่น คือกระบวนการคุณภาพ 6 ขั้นตอน! กระบวนการพิถีพิถันนี้รับประกันว่าทุกผลิตภัณฑ์ถูกสร้างสรรค์ด้วยมาตรฐานคุณภาพ ความปลอดภัย และประสิทธิภาพสูงสุด
ทีมนักวิทยาศาสตร์ระดับโลก
นู สกิน รู้สึกภาคภูมิใจที่มีทีมนักวิทยาศาสตร์ภายในองค์กรมากกว่า 75 คนที่ทุ่มเททำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเพื่อขับเคลื่อนนวัตกรรมและสร้างผลิตภัณฑ์ระดับโลก นอกจากนี้เรายังส่งเสริมความร่วมมือที่แข็งแกร่งกับสถาบันวิทยาศาสตร์ที่ได้รับการยกย่องและผู้นำอิสระทั่วโลกที่แบ่งปันความหลงใหลและค่านิยมในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ทันสมัย บุคคลเหล่านี้เป็นผู้เชี่ยวชาญในสาขาของตนและมีบทบาทสำคัญในโครงการริเริ่มด้านการวิจัยและพัฒนาของนู สกิน
การพัฒนาอย่างต่อเนื่องของ Nu Skin Innovation Center
นู สกินลงทุนหลายพันล้านบาทเพื่อสร้าง Nu Skin Innovation Center เพื่อวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ของตนเองถึง 2 ศูนย์ ทั้งในเมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีนและเมืองโพรโว ประเทศสหรัฐอเมริกา รองรับด้วยห้องแล็บปฏิบัติการและเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ที่ทันสมัย ใช้สำหรับพัฒนาผลิตภัณฑ์ นำทีมโดย ดร. โจเซฟ แซง หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ ผู้นำทีมแผนกวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ พร้อมทั้งทีมนักวิทยาศาสตร์อีก 75 ท่าน เพื่อคิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างไม่หยุดยั้ง พร้อมทั้งสร้างพันธมิตรเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง ร่วมกับมหาวิทยาลัยชั้นนำระดับโลกในสหรัฐอมเริกา ปักกิ่ง และเซี่ยงไฮ้ เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง
นู สกิน มีศูนย์วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ถึง 2 แห่งใน 2 ซีกโลก ด้วยงบประมาณกว่า 152.6 ล้าน เหรียญสหรัฐ เพียบพร้อมด้วยเครื่องมือทางวิทยาศาตร์ที่ทันสมัย นำทีมโดย ดร. โจเซฟ แชง พร้อมเหล่านักวิทยาศาสตร์ประจำกว่า 75 ท่าน โดยหลายท่านมีดีกรีปริญญาเอกหลากหลายสาขา และยังร่วมกับพันธมิตรอย่างมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลกอีกหลายแห่ง พร้อมคณะที่ปรึกษา ด้านวิทยาศาสตร์การต่อต้านความเสื่อมชรา ANTI-AGING SCIENTIFIC ADVISORY BOARD ชั้นนำอีกมากมาย
ปัจบันแบรนด์ "เอจล็อค" มียอดขายมูลค่ามากกว่า 10,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
สอบถาม/สนใจผลิตภัณฑ์/ร่วมงาน ยินดีแนะนำคะ
10 ธ.ค. 2567
22 ธ.ค. 2567